Garaging report ของเหล่า staff
โรงจอดรถของเรามีพลังงานไฟฟ้าจากการติดแผงพลังงานแสงอาทิตย์ในช่วงนี้มักจะคุยกับเพื่อน เรื่องปัญหาของน้ำถ้าไปล้างรถในละแวกนี้ ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าอยากล้างเองแบบง่ายๆ เช็ดรถเองแบบง่ายๆ ล่ะ….โปรเจ็กต์นี้กำลังจะเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว
ภาพ & เรื่อง: จุน อิชิฮารา
เป้าหมายคือความประหยัด
เทคนิคการประหยัดเงินอย่างถึงที่สุด
เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2013 ที่อิซุ จังหวัดชิสุโอกะ มีงานคลาสสิกคาร์ 3.klassisches
VW Treffen In Japan จัดโดย ” FLAT-4″ งานนี้จำกัดเฉพาะรถคลาสสิกเท่านั้น อย่าง Type 1 ถึงปี 1959 Type 2 ถึงปี 1958 หรือ Air-cooled VW ที่เป็น model คลาสสิกคาร์ ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ผมจะไปเข้าร่วมแต่งานธรรมดา แต่ครั้งนี้คิดว่าจะนำรถออกจากโรงจอดรถหลังจากที่ไม่ได้นำออกมานาน ชาร์จแบตเตอรี่ไว้เต็มเปี่ยม สตาร์ทรถ แต่เครื่องยนต์คาร์บูเรเตอร์เกิดมีปัญหา
ต่อมาผมอ่านคู่มือแล้วดึงหัวเทียนออก จากนั้นกำจัดคาร์บอนที่ติดอยู่ออกไปให้หมด งานทำความสะอาดหัวเทียนเป็นงานที่ไม่ได้ทำนานแล้วและไม่ชำนาญ จึงต้องใช้ประแจ plug wrench ช่วย พอดึงหัวเทียน 4 ตัวกับสายหัวเทียนออก ถึงได้รู้ว่าตรงปลายดำมาก ใช้ผ้าเช็ดสิ่งสกปรกออก ตรวจสอบให้ดีแล้วใส่เข้าไปอีกครั้ง สตาร์ทรถ ปรากฏว่าเครื่องเดินได้อย่างง่ายดาย นี่เป็นงานที่ทำเพียง 1 ชั่วโมง แต่รู้สึกเป็นวันหยุดที่น่าพอใจ……มือเลอะคาร์บอนไปหมด…ตายจริง… ที่โรงจอดรถไม่มีน้ำ ก็เลยล้างมือไม่ได้ จึงล็อกกุญแจโรงจอดรถ เดินกลับไปบ้าน 3 นาที แล้วกลับมาโรงจอดรถอีกครั้ง รู้สึกยุ่งยากจัง ใช่แล้ว…ต้องติดประปา
การรายงานเรื่องโรงจอดรถในครั้งนี้ สาเหตุมาจากเครื่องยนต์ พอกลับบ้านก็หาข้อมูลที่จะนำน้ำฝนมาใช้ หาได้ไม่ยากเลย คงเป็นเพราะอยู่ในยุคสมัยที่สะดวกสบาย มีตัวอย่างของการใช้น้ำฝนมากมาย และยังมีระบบจ่ายเงินช่วยเหลือจากจังหวัดหรือเมืองให้ด้วย (แตกต่างกันไปตามพื้นที่ที่อาศัยอยู่) ต่อมาสำรวจว่าจะต้องใช้เงินเท่าไหร่ในการติดตั้ง นอกจากนี้ ยังต้องดูถังเก็บน้ำฝนว่า ถ้าโดนแสงอาทิตย์จะเหม็นง่ายหรือไม่ วัสดุที่เป็นถังเก็บน้ำก็สำคัญ อีกทั้งยังมีข้อมูลที่กล่าวว่า ไม่ควรนำน้ำฝนมาบริโภคแต่ให้นำไปใช้กับสวนหย่อมหรือห้องน้ำ ข้อมูลพื้นฐานเหล่านี้ ได้รับจากอินเตอร์เน็ตทั้งหมด ต่อจากนั้นตรวจสอบดูว่า โรงจอดรถของเรา ควรใช้ถังขนาดไหนจึงจะเหมาะสม
หลังจากนั้น ไปเจอถังน้ำสุดเท่ขนาดมากกว่า 100 ลิตร ขนาดใหญ่เกินไป ไม่สามารถนำมาตั้งในพื้นที่แคบๆ ของโรงจอดรถได้ ราคาก็สูง ด้วยเงินเดือนอันน้อยนิดที่ได้รับอยู่ในปัจจุบัน ไม่สามารถซื้อได้แน่ๆ ดังนั้น จึงซื้อถังน้ำราคา 980 เยน หรือประมาณ 310 บาท ที่โฮมเซ็นเตอร์ ข้อต่อที่แยกน้ำไปอีกทาง ซื้อทางอินเตอร์เน็ตในราคา 1,580 เยน ประมาณ 506 บาท ทั้งหมดเป็นราคาที่สมเหตุสมผล ถ้าซื้อมาแล้วใช้ไม่ได้ ก็คิดไว้แล้วว่าจะ DIY เอง อย่างไรก็ตาม การติดท่อน้ำไว้ใช้ในครั้งนี้ เป็นการทำเพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน จึงตั้งใจไว้แล้วว่า จะใช้เงินให้น้อยที่สุด ถ้ามีเงินแล้ว อยากจะซื้อถังที่ดีกว่านี้ก็ทำได้
ต่อไปหาข้อมูลเกี่ยวกับก๊อกน้ำที่จะติดกับถังน้ำ พอดูในอินเตอร์เน็ต ก็พบว่ามีแบบที่ขายเป็นชุดมาพร้อมกับถังน้ำ แต่ได้วางแผนไว้ว่าจะซื้อแยกกันแล้วจะลองนำมาติดเอง สำหรับข้อต่อที่สั่งมา ดูแล้วรู้สึกประทับใจกับความคิดของคนที่ทำสินค้าตัวนี้ขึ้นมา ตอนนี้ผมกำลังสนุกกับการพิจารณาว่าข้อต่อจะเหมาะกับก๊อกน้ำแบบไหนดี ครั้งต่อไป จะรายงานว่าหลังจากที่ติดตั้งแล้ว มีสภาพเป็นอย่างไร แล้วน้ำฝนใช้ได้หรือไม่ รุ่นพี่หลายคนติดตั้งและใช้น้ำฝนได้อย่างง่ายๆ แล้วมือสมัครเล่นธรรมดาๆ คนหนึ่งจะทำได้หรือไม่ยังเป็นที่ข้องใจ ดังนั้น อยากจะทำงานครั้งนี้อย่างใจเย็น สบายๆ
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.