Maserati Ghibli Hybrid สปอร์ตซีดานสุดหรูจับคู่ขุมพลังไมลด์ไฮบริด
Maserati ผู้ผลิตรถสปอร์ตสัญชาติอิตาเลียน พร้อมก้าวสู่ยุคอนาคต ผ่านการขับเคลื่อนแบบผสมผสาน ด้วยขุมพลัง Mild Hybrid ที่ใช้ระบบไฟฟ้า มาช่วยเพิ่มศักยภาพให้มีสมรรถนะเหนือชั้น เริ่มติดตั้งใน Ghibli Hybrid ที่ถือเป็นโมเดลยอดนิยม มียอดจำหน่ายสูงกว่า 100,000 คัน นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปี 2013 ผสานการเป็นรถที่มีดีเอ็นเอของแบรนด์อย่างเต็มเปี่ยม
ปิยะเทพ ศิวากาศ ผู้จัดการทั่วไปมาเซราติ ประเทศไทย กล่าวว่า “Ghibli Hybrid แบ่งเป็น 3 รุ่นย่อยได้แก่ รุ่นพื้นฐาน Base, GranLusso และ GranSport นับเป็นยนตรกรรมที่เข้ามาเสริมพอร์ตโฟลิโอของ Maserati เพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาด และตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน อีกทั้งยังคงเอกลักษณ์เสียงคำรามอันดุดันไว้ได้อย่างครบถ้วน”
สปอร์ตเต็มขั้นดุดันทุกองศา Maserati Ghibli Hybrid ผ่านการออกแบบใหม่โดย Centro Stile Maserati ทั้งภายนอก และห้องโดยสาร ดีไซน์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ โดยสิ่งที่แสดงถึงความเป็นรุ่นไฮบริดก็คือการใช้สีน้ำเงินกับ 3 ช่องระบายอากาศด้านข้าง, สัญลักษณ์สายฟ้าของโลโก้ตรีศูลบริเวณเสาซี รวมถึงตะเข็บของเบาะ เพื่อสื่อถึงเทคโนโลยีไฟฟ้า และโลกแห่งอนาคต กระจังหน้าก็ผ่านการออกแบบใหม่ ซี่กระจังมีลักษณะคล้าย ‘ส้อมเสียง’ (Tuning Fork) เครื่องดนตรีชนิดหนึ่งที่มีเสียงใสชัด ติดตั้งไฟหน้าแบบ Adaptive Full-LED Matrix Headlights และประตูแบบ Soft Close (เฉพาะรุ่น GranLusso และ GranSport)
ขุมพลัง Mild Hybrid เร้าใจเต็มสมรรถนะ
นวัตกรรมขุมพลังไฮบริดสุดล้ำ เป็นผลลัพธ์จากมันสมองของทีมวิศวกร และฝ่ายเทคนิคของ Maserati Innovation Lab ที่เมืองโมเดนา ผสมผสานเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ 48 โวลต์ และอิเล็กทรอนิกส์ซูเปอร์ชาร์จ (e-Booster) มีกำลังสูงถึง 330 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 255 กม./ชม. นับเป็นเครื่องยนต์ไฮบริดอันโดดเด่น และเป็นผลงานแรกของเครื่องยนต์ยุคอนาคต ที่ผสมผสานสมรรถนะ, ความประหยัด และสุนทรียะแห่งการขับได้อย่างลงตัว ติดตั้งแบตเตอรี่บริเวณท้ายรถเพื่อความสมดุล และมีพิกัดโดยรวมเบากว่า Ghibli Diesel 80 กิโลกรัม
ซีดานหรูครบทุกอณูแห่งความสปอร์ต
Maserati Ghibli GranLusso ตกแต่งห้องโดยสารด้วยหนังแท้เกรดพรีเมียม ติดตั้งพวงมาลัยแบบสปอร์ต, เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า 12 ทิศทาง พร้อมการบันทึกตำแหน่งฝั่งผู้ขับ, ประดับลายไม้ Radica Open Pore ทัชสกรีนอเนกประสงค์ 10.1 นิ้ว MTC (Maserati Touch Control), ชุดเครื่องเสียงลำโพง 8 ตำแหน่ง พร้อมคาลิเปอร์เบรกพ่นสีดำลงตัวกับล้อแม็ก Poseidon ขอบ 19 นิ้ว เชื่อมต่อโลกดิจิทัลครบวงจรผ่านโปรแกรม Maserati Connect และ Maserati Intelligent Assistant โดยใช้ข้อมูลพื้นฐานจาก Android Automotive ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ขับ พร้อมอัปเดตฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ โดยอัตโนมัติ
ขณะที่รุ่น GranSport เพิ่มออปชั่นแบบจัดเต็ม อาทิ ชุดแต่งรอบคัน, คิ้วกระจังหน้า และคิ้วฝาท้ายแบบสปอร์ต, แพดเดิลชิฟต์อะลูมิเนียม, ลายไม้ขัดเงา และวัสดุสีดำเปียโนแบล็ค, ทัชสกรีนอเนกประสงค์ 10.1 นิ้ว MTC+ (Maserati Touch Control Plus) พร้อมระบบนำทาง, แป้นเหยียบอะลูมิเนียม, ซันรูฟไฟฟ้า, เครื่องเสียง Harman Kardon, ช่วงล่างสกายฮุค (Skyhook) จับคู่กับจานเบรก 2 ชิ้น (Dual Cast Braking System) พร้อมคาลิเปอร์เบรกสีแดง ปิดท้ายด้วยล้อแม็ก Urano ปัดเงา ขอบ 20 นิ้ว
Maserati Ghibli Hybrid ยนตรกรรมไฮบริดรุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของค่ายตรีศูล เป็นเสมือนก้าวแรกสู่การทำเทคโนโลยีไฮบริดมาใช้กับรถรุ่นอื่นๆ ในอนาคต อีกทั้งยังมีแผนเปิดตัวรุ่น GranTurismo และ GranCabrio ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนภายในปี 2021
Maserati Ghibli Hybrid พร้อมแพ็กเกจ PMP (Premium Maintenance Program)* ราคาเริ่มต้น 5.99 ล้านบาท
*แพ็กเกจ PMP รวมการรับประกันคุณภาพ 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง การบำรุงรักษา 3 ปีหรือ 60,000 กม. และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 3 ปี
*บริษัทขอสงวนสิทธิ์การเปลี่ยนแปลงราคาหรือออปชั่น โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: มาเซราติ ประเทศไทย
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.