Ferrari F80 เปิดตัวครั้งแรกของเอเชียที่ Universo Ferrari Bangkok 2024
ซูเปอร์คาร์คันล่าสุดของค่าย 'ม้าลำพอง' ผลิตจำนวนจำกัด 799 คันในโลก
Ferrari F80 สุดยอดซูเปอร์คาร์ 1,200 แรงม้า ที่ทรงพลังมากที่สุดจากม้าลำพอง เปิดตัวครั้งแรกในเอเชีย ระหว่างงาน Universo Ferrari ที่มาจัดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย ที่ UOB Live ศูนย์การค้า Emsphere ระหว่างวันที่ 23-25 พฤศจิกายน 2567
Ferrari เผยโฉมรุ่น F80 พร้อมจารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของซูเปอร์คาร์ระดับตำนานที่มาพร้อมกับตราสัญลักษณ์ม้าลำพอง F80 ถูกผลิตขึ้นด้วยจำนวนจำกัดเพียง 799 คัน และถูกจัดอยู่ในรถกลุ่มเดียวกับยนตรกรรมระดับตำนาน อาทิ GTO, F40 และ LaFerrari จากการรวมเอาสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่แบรนด์จากมาราเนลโลมีอยู่ มารวมไว้ในรถคันนี้ ทั้งในด้านเทคโนโลยีและสมรรถนะ
นับตั้งแต่ปี 1984 เป็นต้นมา Ferrari ได้ทยอยเปิดตัวซูเปอร์คาร์รุ่นใหม่ที่ต่างก็มาพร้อมกับความล้ำสมัยทางเทคโนโลยีและที่สุดแห่งนวัตกรรมของยุคนั้นๆ แน่นอนว่ารถเหล่านี้ได้รับการยกย่องเชิดชูจากผู้คนจำนวนมาก และด้วยการรังสรรค์ขึ้นสำหรับลูกค้าผู้มีรสนิยมชั้นเลิศของแบรนด์ ยนตรกรรมเหล่านี้จึงกลายเป็นรถแห่งตำนาน จารึกเรื่องราวที่เหนือกาลเวลามี ให้กับประวัติศาสตร์ของ Ferrari และยังรวมไปถึงประวัติศาสตร์ของรถคันนั้นๆ เองอีกด้วย
F80 ซูเปอร์คาร์คันล่าสุดในครอบครัวระดับตำนาน ถูกรังสรรค์ขึ้นเพื่อเป็นยนตกรรมเครื่องยนต์สันดาปภายในที่มีวิศกรรมระดับสุดยอด และอัดแน่นไปด้วยความล้ำหน้าทางเทคโนโลยี ซึ่งรวมไปถึงเทคโนโลยีไฮบริดเจเนอเรชั่นล่าสุดสำหรับระบบขับเคลื่อน เพื่อให้ได้มาซึ่งแรงม้า และแรงบิดในระดับที่ไม่มีใครสามารถเทียบเคียงได้ ทุกกระเบียดนิ้วของโครงสร้างออกแบบมาเพื่อสมรรถนะสูงสุด ตั้งแต่แชสซีส์คาร์บอนไฟเบอร์และแอโรไดนามิกขั้นสูงแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนใน Road Car ไปจนถึงช่วงล่างแบบแอคทีฟรุ่นใหม่ที่ช่วยให้ผู้ขับสามารถรีดสมรรถนะของรถได้สูงสุดเมื่ออยู่ในสนามแข่ง
นอกจากนั้น F80 ยังแตกต่างไปจากซูเปอร์คาร์ทั่วไปโดยสิ้นเชิง ด้วยการผสานประสิทธิภาพเหล่านี้เข้ากับความสะดวกสบายอันไร้ที่ติเมื่อขับขี่ในชีวิตประจำวัน ทำให้ซูเปอร์คาร์คันนี้สมบูรณ์แบบทั้งการแข่งในสนาม และการใช้งานบนถนนสาธารณะได้สบายเหมือนรถยนต์ทั่วไปนั่นหมายถึง ผู้ขับจะสามารถใช้เวลาอยู่ในรถได้นานขึ้น และสามารถดื่มด่ำสมรรถนะของรถ
ตลอดจนสัมผัสประสบการณ์การขับขี่สุดเร้าใจที่รถคันนี้มอบให้ได้อย่างเต็มอิ่ม การออกแบบของ F80 จึงสุดขั้วด้วยการเลือกใช้เลย์เอาท์ห้องโดยสารที่โฟกัสไปยังผู้ขับเป็นสำคัญ ทว่ายังคงมอบพื้นที่ใช้สอยและความสะดวกสบายให้แก่ผู้โดยสารอย่างเต็มที่ ทางเลือกนี้ช่วยลดแรงต้านและน้ำหนักรวมของรถลงได้อย่างน่าทึ่งทีเดียว
พื้นที่ในห้องโดยสารดูราวกับรถแบบที่นั่งเดี่ยว ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วนี่คือรถสองที่นั่งซึ่งใช้งานจริงได้อย่างถูกกฎหมายจราจร ผลลัพธ์คือสถาปัตยกรรมที่เราสามารถเรียกได้ว่าเป็นรถแบบ “1+1 ที่นั่ง” เหตุผลหลักที่เลือกใช้วิธีนี้ก็เพื่อลดสัดส่วนความกว้าง (ของตัวถังส่วนห้องโดยสาร) ทำให้รถมีแอโรไดนามิกดีขึ้น (จากแรงต้านที่น้อยลง) และมีน้ำหนักเบาลง แนวคิดนี้เป็นหลักการเดียวกับที่ใช้ในวงการมอเตอร์สปอร์ต ซึ่ง F80 ไม่เพียงแค่นำมาเป็นแรงบันดาลใจ แต่ยังถ่ายทอดเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้เป็นทางออกในการเพิ่มประสิทธิภาพของรถอีกด้วย
แหล่งพลังของ F80 นำเทคโนโลยีชั้นยอดที่ได้จากมอเตอร์สปอร์ตมาใช้ เช่นเดียวกับซูเปอร์คาร์รุ่นอื่นๆ ก่อนหน้านี้ของ Ferrari อาทิรุ่น GTO และ F40 ที่ใช้เครื่องยนต์ V8 เทอร์โบ เนื่องจากช่วงยุค 1980 รถแข่งฟอร์มูลาวันใช้ขุมพลังประเภทนี้ในการแข่งขัน
ส่วนปัจจุบันทั้งรถแข่งฟอร์มูลาวันและรถแข่ง World Endurance Championship (WEC) ต่างก็ใช้เครื่องยนต์ V6 เทอร์โบ ทำงานร่วมกับระบบไฮบริดแบบ 800 โวลต์ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่นวัตกรรมนี้ (ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับที่ใช้อยู่ในรถแข่งรุ่น 499P และคว้าชัยชนะในรายการ 24 Hours of Le Mans ถึง 2 ครั้งติดต่อกัน) จะถูกสืบสานต่อมายัง F80 ใหม่
ไม่เพียงเท่านั้นเครื่องยนต์ยังได้รับการเพิ่มสมรรถนะด้วยการนำเทคโนโลยีเทอร์โบไฟฟ้า (e-turbo) มาใช้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ Ferrari ด้วยการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าติดตั้งคั่นกลางระหว่างเทอร์ไบน์ (ฝั่งไอเสีย) และคอมเพรสเซอร์ (ฝั่งไอดี) ของเทอร์โบแต่ละตัว ทำให้สามารถสร้างพละกำลังที่ไม่ธรรมดาทั้งยังตอบสนองได้แบบต่อเนื่องรวดเร็วตั้งแต่รอบต่ำอีกด้วย
แอโรไดนามิกคือบทบาทสำคัญของ F80 ด้วยการใช้ปีกหลังแบบแอคทีฟ, ดิฟฟิวเซอร์หลัง, ใต้ท้องรถที่ปิดเรียบ, ปีกหน้า 3 ระนาบ และ S-Duct ประสานการทำงานกันจนสร้างดาวน์ฟอร์ซได้มากถึง 1,000 กก. ที่ความเร็ว 250 กม./ชม. เสริมด้วยช่วงล่างแบบแอคทีฟที่สามารถสร้างแรงยึดเกาะกับพื้นถนนได้โดยตรง เพิ่มสมรรถนะด้วยการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนล้อหน้า รถจึงสามารถขับเคลื่อนสี่ล้อได้ ช่วยให้การถ่ายเทแรงบิดและพละกำลังทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ ร่วมด้วยระบบเบรกแบบใหม่ซึ่งมาพร้อมกับเทคโนโลยี CCM-R Plus แบบเดียวกับที่ใช้ในรถแข่งของ Ferrari
F80 นับเป็นปฐมบทแห่งดีไซน์ยุคใหม่ของ Ferrari ด้วยภาษาการออกแบบที่เร้าอารมณ์สุดขั้ว สะท้อนจิตวิญญาณสายเลือดนักแข่งได้ชัดเจนยิ่งขึ้น จากการนำดีไซน์จากยานอวกาศมาใช้เพื่อเน้นย้ำให้เห็นเทคโนโลยีสุดไฮเทคและเทคนิคทางวิศวกรรมอันล้ำหน้าที่ถูกนำมาใช้ในรถคันนี้ ทว่ายังคงเคารพต่อรากฐานอันโดดเด่นที่สืบสานมาตั้งแต่อดีตกาล ไว้ในสายเลือดของ F80 เช่นเดิม
เติมเต็มความหลงใหลไปกับหนึ่งในยนตรกรรมที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในโลก พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์สุดพิเศษนี้บนหน้าประวัติศาสตร์ยานยนต์เมืองไทย ในงาน Universo Ferrari ที่ UOB Live ศูนย์การค้า Emsphere เปิดให้ลูกค้า และบุคคลทั่วไปได้เข้าชมในวันที่ 23-25 พฤศจิกายน 2567 โดยสามารถซื้อบัตรเข้าร่วมงานได้ที่ Thaiticketmajor หรือช่องทางออนไลน์ คลิก https://www.thaiticketmajor.com/universo-ferrari/
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: คาวาลลิโน มอเตอร์
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.