ปอร์เช่ ประเทศไทย ฉลองครบรอบ 25 ปี เสริมทัพด้วย คาเยนน์ และ มาคันน์ รุ่นใหม่
อาเธอร์ วิลมันน์ กรรมการผู้จัดการ ปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิค เปิดเผยว่า “ประเทศไทยนับว่าเป็นตลาดที่มีขนาด ใหญ่ที่สุดและมีความสำคัญเป็นอย่างมากในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค เรามีความยินดีและตื่นเต้นกับศักยภาพใน อนาคตที่ปอร์เช่จะมีร่วมกันกับ เอเอเอสฯ ในฐานะที่ เอเอเอสฯ เป็นพันธมิตรทางธุรกิจของเรามาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความสามารถในการแข่งขัน การขยายเครือข่ายการจัดจำหน่าย รวมไปถึงยุทธศาสตร์ของการใช้พลังงานไฟฟ้า ทั้งปอร์เช่และ เอเอเอสฯ กำลังรอคอยการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของรุ่น ไทคานน์ (Taycan) รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกของปอร์เช่ ซึ่งกำลังจะมาถึงในต้นปี 2020 นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในประเทศไทยนั้นมีผู้ชื่นชอบรถยนต์ปอร์เช่ให้การตอบรับกับรถยนต์รุ่น Plug-in Hybrid และ Porsche E-Performance เป็นอย่างดีตั้งแต่แรกเริ่ม”
มร. ปีเตอร์ โรห์เวอร์ กรรมการผู้จัดการ ปอร์เช่ ประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า “ลูกค้าปอร์เช่ในประเทศไทย จะได้เพลิดเพลินและพึงพอใจยิ่งขึ้นกับการซื้อรถยนต์ปอร์เช่ นอกเหนือจากการรับประกันจากโรงงานหรือ Factory warranty ที่ให้ความรู้สึกสบายใจกับลูกค้าแล้ว ปอร์เช่ในรุ่นคาเยนน์ และมาคันน์ยังถูกปรับปรุงมาตรฐานเพิ่มเติมใหม่ ซึ่งจะมอบทั้งความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และความสปอร์ตที่มากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย”
นับตั้งแต่เปิดให้บริการ Porsche Centre Bangkok ในปี พ.ศ. 2536 เอเอเอสฯ ได้ขยายการให้บริการ แก่ลูกค้าปอร์เช่ในประเทศไทย ด้วยการเปิดศูนย์บริการและโชว์รูมรวมทั้งสิ้น 3 แห่ง และในเร็ว ๆ นี้ Porsche Studio Bangkok จะเป็นอีกแห่งหนึ่งที่พร้อมเปิดให้บริการ โดย Porsche Studio Bangkok ถือเป็นโชว์รูมในคอนเซ็ปต์ Porsche Studio แห่งแรกในอาเซียน ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญและศักยภาพของประเทศไทย รวมถึงความหลงใหลใน รถยนต์ปอร์เช่ของลูกค้าชาวไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ เอเอเอสได้เปิดศูนย์รถยนต์ปอร์เช่ คลาสสิค พาร์ทเนอร์ (Porsche Classic Part-ner) แห่งแรกของโลก นอกจากนี้ประเทศไทยยังเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค เอเชีย แปซิฟิค และเป็น ตลาดสำคัญของรถยนต์ปอร์เช่ในตระกูล E-Performance อีกด้วย
Comments are closed.