การที่บ้านหลังหนึ่งมีการต่อเติมโรงจอดรถให้เป็นการาจนั้น นอกจากจะเป็นการเพิ่มพื้นที่การใช้งานแล้ว เมื่อมองในมุมของนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังเป็นการเพิ่มมูลค่าของตัวบ้านด้วย แต่สิ่งที่ควรให้ความสำคัญก่อนการเปลี่ยนที่จอดรถธรรมดาในบ้านให้เป็นโรงจอดรถ (Garage) นั้น คือ การวางแผนที่ดีที่ครอบคลุมถึงความต้องการ ทั้งในเรื่องของประโยชน์ใช้สอย ความสวยงาม และงบประมาณไปพร้อมๆ กัน
ในการวางแผนการทำงาน ควรเริ่มจากสรุปความต้องการในการใช้พื้นที่ ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดขนาดของพื้นที่โดยอัตโนมัติ และนำไปสู่การจัดวางผัง การออกแบบ วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่จะใช้ในโรงจอดรถ รวมถึงการคำนวณงบประมาณอีกด้วย
แน่นอนว่า ต้องเริ่มจากพื้นที่สำหรับจอดรถ คำถามคือ พื้นที่มีพอกับจำนวนรถที่จะจอดหรือไม่ ซึ่งในกรณีที่พื้นที่จอดไม่สัมพันธ์กับจำนวนรถ การใช้ลิฟท์จอด ถือเป็นทางออกในการจัดสรรพื้นที่ นอกจากจอดรถแล้ว การแบ่งพื้นที่สักมุมหนึ่งเพื่อเป็นบริเวณสำหรับงานอดิเรกถือเป็นการเพิ่มประโยชน์ใช้สอยที่คุ้มค่า จากตัวอย่างในการาจไลฟ์เล่มที่ผ่านๆ มาเราจะเห็นว่านอกจากการใช้การาจเป็นพื้นที่เก็บรถแล้ว เจ้าของบ้านยังมีมุมสำหรับงานอดิเรกที่แตกต่างกันออกไปตามความชอบของแต่ละคน บางคนชอบตีกอล์ฟ ก็จะมีพื้นที่สำหรับเก็บอุปกรณ์และอาจจะมีที่สำหรับฝึกไดร์ฟด้วย อีกตัวอย่างเช่น ในเล่มที่ 8 บ้านคุณ O มีห้องซ้อมดนตรีที่สามารถมองดูรถ GALLARDO ขณะที่กำลังเล่นดนตรีกับเพื่อนๆ ไปพร้อมกัน ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดการใช้พื้นที่และงบประมาณต่างๆ เช่น เครื่องปรับอากาศ ไฟส่องสว่าง เต้ารับ สายสัญญษณโทรทัศน์ เครื่องเสียง เป็นต้น
ถึงตอนนี้ เราก็จะได้ขนาดพื้นที่คร่าวๆ ของการาจที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยส่วนมาก การาจในเมืองไทยจากประสบการณ์ที่ผ่านมาพบว่า เป็นการต่อเติมหรือดัดแปลงโรงจอดรถเดิมที่ติดกับตัวบ้านมา ซึ่ง 99% เป็นโรงจอดรถแบบเปิด อธิบายให้เห็นภาพ คือ ผนังสองด้านเป็นส่วนของผนังอาคารและอีกสองด้านเปิดโล่ง ซึ่งการดัดแปลงให้เป็นการาจแบบปิดนั้นจะต้องทำผนังเพิ่มที่ด้านข้างและเพิ่มประตูที่ด้านหน้า โดยทั่วไปแล้วขนาดที่เล็กที่สุดที่สามารถทำการาจได้ คือ 3.70 x 6.70 เมตร สำหรับจอดรถหนึ่งคัน และหน้ากว้าง 5.50 เมตร สำหรับจอดรถสองคัน แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าของบ้านส่วนใหญ่มักเลือกที่จะให้การาจของตนกว้างกว่าปกติเพื่อให้สามารถเปิดประตูรถได้สะดวกขึ้น
เมื่อได้สรุปความต้องการใช้พื้นที่และขนาดโดยคร่าวของการาจได้แล้ว ที่เหลือเป็นหน้าที่ของสถาปนิกในการทำความต้องการของเจ้าของบ้านให้เป็นจริง โดยจะเริ่มจากศึกษาจากพื้นฐานโครงสร้างบ้านเดิม การต่อเติมที่จะไม่สร้างปัญหาในภายภาคหน้า เช่น บ้านทรุด พื้นฉีก หรือ น้ำรั่ว รวมถึงปัจจัยพื้นฐานในการก่อสร้างอื่นๆ เช่น ถ้ารถที่จอดมีใต้ท้องต่ำกว่าปกติ ทางลาดจะต้องสัมพันธ์กันด้วย ตลอดจนความสวยงามและความสอดคล้องกับอาคารเดิมที่ทั้งหมดรวมเป็นภาษาของการออกแบบ จากนั้นจะเป็นการประเมินราคาก่อสร้างและอุปกรณ์ที่จะจัดซื้อโดยการมีผู้รับเหมาและทีมช่างที่มีประสบการณ์จะสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าของบ้านได้ โดยระยะเวลาในการก่อสร้างรวมงานตกแต่งเฟอร์นิเจอร์สำหรับการาจที่จอดไม่เกิน 4 คัน ควรอยู่ในระยะเวลา 3 เดือน
ในเมืองไทยไม่ว่าจะเป็นซูเปอร์คาร์ หรือ อีโค่คาร์ โรงจอดรถแทบไม่ต่างกัน การมีการาจไม่ใช่เรื่องไกลตัวแต่เป็นเรื่องของการทำความฝันให้เป็นจริง การมีกิจกรรม งานอดิเรก หรือพื้นที่สำหรับเพื่อนๆ ในวันหยุด คือ ไลฟ์สไตล์อย่างหนึ่งและการาจ คือ พื้นที่สำหรับไลฟ์สไตล์เหล่านั้น
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.