ฐานทัพลับของ Super Bike ของผู้ที่คลั่งไค้ลความแรง
บ้านคุณโทนี่ กรุงเทพฯ
คงไม่เป็นการพูดเกินจริงเลย ถ้าจะบอกว่า Super Bike
เป็นรถที่รวมเอาสุดยอดเทคโนโลยีของมอเตอร์ไซค์มาไว้ในคันเดียว ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป
แต่ความสุขของเจ้าของที่คลั่งไคล้รถมอเตอร์ไซค์เหล่านี้ คุณคิดว่ามันคืออะไร?
เรื่อง: วีระโชติ ดวงฤทัย ภาพ: สุภชัย รอดประจง
การหลงใหลไปกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ผมว่ามนุษย์เราคงเป็นกันทุกคน แต่ถึงขนาดที่ว่า “คลั่งไคล้” คงหาไม่ได้ง่ายนัก แต่สำหรับโรงจอดรถที่เรามาเยี่ยมชมในครั้งนี้ เจ้าของเป็นผู้ที่คลั่งไคล้ในรถมอเตอร์ไซค์แบบสุดๆ โดยเฉพาะกับมอเตอร์ไซค์ที่ได้ชื่อว่าเป็น Super Bike ซึ่งคุณโทนี่ เจ้าของโรงจอดรถบอกว่า “มอเตอร์ไซค์แต่ละค่ายก็จะมีจุดดี จุดด้อย แตกต่างกันไป ซึ่งแต่ละคันก็มีเสน่ห์ที่ถ้าลองได้ค้นหาแล้วคุณอาจจะตกหลุมรักมันก็เป็นได้”
อาจเป็นเพราะคุณโทนี่คิดแบบนี้ เขาจึงเคยมีเจ้า Super Bike สะสมไว้แทบจะทุกแบรนด์มากกว่า 30 คัน ซึ่งเขาเล่าว่า “เมื่อก่อนผมก็ชอบรถยนต์นะ เคยมี เคยขับมาก็หลายแบรนด์ ทั้งรถสปอร์ต รถออฟโรด แต่พอรุ่นน้องที่สนิทกันชวนให้มาลองขี่ Big Bike ก็เลยชอบ คันแรกที่ซื้อเป็น Kawasaki RGT ZX10 จากนั้นก็มีคันอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็น Honda Yamaha BMW Haley-Davison Ducati ซึ่งทุกคันมันมีเสน่ห์ของมัน ที่สำคัญมันไม่สามารถทดแทนกันได้ ถึงจะมีรูปทรงคล้ายกันแต่ feeling การตอบสนองมันก็แตกต่างกัน”
“ส่วนเหตุผลที่ทำให้ผมหลงรักการขี่มอเตอร์ไซค์คงเพราะว่า ผมเป็นคนที่หลงรักความแรง แต่ก็ไม่ได้บ้ากับความเร็ว ผมชอบความรู้สึกเวลาที่บิดคันเร่งแล้วรถมันตอบสนองได้ตามที่เราต้องการ โดยไม่จำเป็นต้องขี่ในโหมด top speed ตลอดเวลา แต่เหมือนกับว่า ความแรงมันอยู่ในมือเรา เราสามารถควบคุมมันได้ มันมีมนต์เสน่ห์บางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้น่ะครับ ซึ่งความรู้สึกมันแตกต่างกับตอนขับรถมาก…ครับ”
รีโนเวท carport
ให้เป็นโรงจอดรถในฝัน
เดิมทีบริเวณที่เป็นโรงจอดรถหลังนี้ เป็น carport ที่ใช้เป็นห้องนั่งเล่นของครอบครัว ต่อมาหลังคาเกิดทรุดลงมาคุณโทนี่เลยรีโนเวทใหม่ให้เป็นโรงจอดรถมอเตอร์ไซค์ แต่ก็สามารถจอดได้เพียง 3 คันเท่านั้น เลยต้องตัดสินใจเลือกเฉพาะคันที่ชอบสุดๆ ซึ่งก็ได้แก่ MV Agusta F3 800 AGO ซูเปอร์ไบค์ จากประเทศอิตาลี รุ่น Limited ฉลองตำนานนักแข่ง Giacomo Agostini ตำนานนักแข่งรถของ MV Agusta ในอดีตได้แชมป์โลก 15 สนาม ที่ผลิตเพียง 300 คันทั่วโลกเท่านั้น ส่วนในประเทศไทยน่าจะมีอยู่เพียง 5 คันเท่านั้น
คันที่ 2 Kawasaki Ninja H2 เป็นการนำชื่อของมอเตอร์ไซค์สปอร์ต คาวาซากิ นินจา (Kawasaki Ninja) และมอเตอร์ไซค์เจ้าของความเร็วสูงสุดของโลกในปี 1971 อย่างคาวาซากิ เอช2 (Kawasaki H2) มารวมกัน ซึ่งสื่อถึงการผสานเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเข้ากับจิตวิญญาณดั้งเดิมของคาวาซากิ สังเกตได้จากการนำตราสัญลักษณ์ดั้งเดิมของคาวาซากิ เฮฟวี่ อินดัสทรี (Kawasaki Heavy Industry) มาติดลงบนตัวรถด้วย ทีเด็ดของ Kawasaki Ninja H2 อยู่ที่เครื่องยนต์รุ่นใหม่ ซึ่งหันมาใช้ระบบซูเปอร์ชาร์จเพิ่มกำลังให้เครื่องยนต์ขนาด 998 ซี.ซี. จนมีกำลังรวมมากถึง 300 แรงม้า นับว่าแรงที่สุดเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์พิกัดเดียวกันในขณะนี้ แน่นอนว่า มีการนำเข้ามาในประเทศไทยเพียง 10 คันเท่านั้น
ระหว่างที่ฟังคุณโทนี่เล่า ก็มีเจ้าหน้าที่จากดูคาติประเทศไทยมาส่งเจ้า Ducati Scrambler Paul Smart Edition พอดี ซึ่งคันนี้เป็นคันที่ 3 ที่จะจอดอยู่ในโรงจอดรถแห่งนี้ Ducati Scrambler Paul Smart Edition ซึ่งเป็นรถซูเปอร์ ลิมิเต็ด อิดิชั่น รุ่นแรกที่ทางนักแข่งดูคาติผู้เป็นตำนานระดับโลกอย่าง Paul Smart ได้ถ่ายทอดจิตวิญญาณความเป็นตัวตนลงบนรถรุ่นนี้ และมีเพียง 24 คันเท่านั้น
ส่วนที่เหลือ คุณโทนี่บอกว่า “คงต้องจอดคลุมผ้าไว้ก่อน แล้วค่อยๆ สลับกันมาจอด จะได้สนุกกับการจัดโรงจอดรถได้เรื่อยๆ…”
PLANNING DATA & MATERIALS
เลือกใช้โทนสีที่สดใส
สร้างบรรยากาศในโรงจอดรถ
เมื่อมองรอบๆ โรงจอดรถ นอกจาก Super Bike คันโปรด แจ็กเก็ตที่ใส่เวลาขี่รถ หมวกกันน็อกแล้ว ยังมีของต่างๆ ที่เกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์ถูกจัดวางอย่างมีระเบียบ ภาพถ่าย โปสเตอร์ ธง คุณโทนี่เล่าว่า “เมื่อก่อนของสะสมเหล่านี้ก็เก็บเอาไว้ในลัง อย่างเก่งก็เอามาปัดฝุ่นนานๆ ครั้ง แต่พอทำโรงจอดรถเสร็จก็ทะยอยเอาออกมา”
อย่างที่กล่าวไว้ว่า เดิมโรงจอดรถหลังนี้เป็น carport แต่หลังจากที่หลังคาทรุดลงมาก็เลยได้โอกาสรีโนเวทใหม่ ให้เป็นโรงจอดรถมอเตอร์ไซค์ โดยคุณโทนี่เป็นคนออกแบบและเลือกใช้วัสดุเองทั้งหมด ประตูเป็นกระจกแบบสไลด์ด้านข้าง โดยพื้นที่ของโรงจอดรถด้านขวาเป็นที่สำหรับจอดมอเตอร์ไซค์ ด้านในสุดเป็นตู้เก็บเครื่องมือช่าง และบรรดาของสะสมที่เกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์ ไม่ว่าจะเป็น หมวกกันน็อกของ Ruby ที่สั่งทำเป็นพิเศษ โมเดลรถ และหนังสือรวมภาพของ Giacomo Agostini นักแข่งในตำนานของ MV Agusta
ผนังด้านขวาใช้แผ่นเมทัลชีททาสีเหลือง ได้แรงบันดาลใจมาจาก Scrambler Café ร้านโฮมเมดเบอร์เกอร์ที่สร้างจากตู้คอนเทนเนอร์ ส่วนด้านบนเพดานใช้แผ่นเมทัลชีททำเป็นฝ้าเพดานปูด้วยฉนวนกันความร้อน ส่วนพื้นปูด้วยพรมหญ้าเทียมติดตั้งหลอดไฟแบบดาวน์ไลท์และแบบราง ทำให้โรงจอดรถนี้ดูสดใส
ด้านซ้ายของโรงจอดรถเป็นกระจกติดสติ๊กเกอร์ลายทหาร จัดวางชุดเฟอร์นิเจอร์ลายพรางที่เข้ากัน เพื่อไว้นั่งชื่นชมบรรดาเจ้าสองล้อทั้งหลายที่จอดอยู่ในนี้ ตรงกลางมีโต๊ะทำงานที่ทำจากหัวรถ Mini เห็นว่าเข้ากันกับโรงจอดรถเลยนำมาตั้งไว้ ส่วนด้านในของเดิมที่เป็นกระจกใช้ไม้ระแนงติดปิดเพื่อบังสายตา ตกแต่งด้วยภาพถ่ายที่ถ่ายคู่กับมอเตอร์ไซค์คันโปรด และนักแข่งชื่อดังของดูคาติ อย่าง Paul Smart ด้านล่างแขวนเฟรมของ Ducati รุ่น Paul Smart ที่ถอดเก็บไว้ รอบๆ โรงจอดเป็นพื้นที่สำหรับจัดวางของสะสมที่รวบรวมมานาน ทั้งรถจักรยาน ชุดที่ไว้ใส่ขี่มอเตอร์ไซค์ และของสะสมที่ชื่นชอบ ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ นอกจากนี้ยังทำสแตนด์ที่มีรายละเอียดของรถไว้ข้างๆ มอเตอร์ไซค์แต่ละคันอีกด้วย
“ช่วงที่ได้ใช้เวลาอยู่ในนี้มันวิเศษสุดๆ ไปเลยครับ แถมยังช่วยปัดเป่าความเครียดในแต่ละวันได้อีกด้วย” และนั่นคือ ความรู้สึกของเจ้าของโรงจอดรถหลังนี้
อ้อ…เกือบลืม สำหรับใครที่อยากหา Garage ใช้เป็นสถานที่ถ่ายภาพ ถ่ายรายการ ทางเจ้าของเขายินดีให้เช่าถ่ายนะครับ สนใจติดต่อได้ที่ 08-4004-6666 หรือ ID Line: chiarainia
PLANNING DATA
สถานที่: กรุงเทพมหานคร
เจ้าของ: คุณโทนี่
สร้างเสร็จ: ต้นปี 2558
โครงสร้าง: คอนกรีตเสริมเหล็ก
พื้นที่โรงจอดรถ: ประมาณ 30 ตารางเมตร
รถยนต์คันโปรด: MV Agusta F3 800 AGO
Kawasaki Ninja H2
Ducati Scrambler Paul Smart Edition ฯลฯ
OWNER CHECK
ส่วนที่ชอบที่สุด: ชอบทุกมุมเพราะเป็นคนออกแบบเองทั้งหมด
ส่วนที่อยากปรับปรุง: ไม่มี
ความฝันครั้งต่อไป: อยากขยายโรงจอดรถให้กว้างกว่านี้
คำแนะนำถึงผู้อ่าน: ไม่มี
Comments are closed.