สานต่อดีเอ็นเอรถแข่งพันธุ์แท้เปิดตัว—Mini John Cooper Works GP
มินิ ประเทศไทย เปิดตัว Mini John Cooper Works GP เจเนอเรชั่นที่ 3 ส่งความแรงเต็มพิกัดสู่แฟนๆ ชาวไทย สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในเซกเมนต์รถยนต์พรีเมียมคอมแพ็กด้วย Mini ที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์
มอบความสปอร์ตทรงพลัง และความปราดเปรียวไม่ซ้ำใครในสไตล์ John Cooper Works สานต่อตำนานรถแข่งที่ขับเคลื่อนด้วยแรงบันดาลใจจาก John Cooper นักออกแบบรถแข่งฟอร์มูล่าวันผู้ทรงอิทธิพล นับตั้งแต่การปรากฏโฉมของ Mini รุ่นคลาสสิกครั้งแรกเมื่อ 60 ปีก่อน โดย Mini John Cooper Works GP จะมาในจำนวนจำกัดเพียง 30 คันเท่านั้น และเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อวันพุธที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา
คุณปรีชา นินาทเกียรติกุล ผู้จัดการทั่วไป มินิ ประเทศไทย กล่าวว่า “รถยนต์ในตระกูล John Cooper Works นับเป็นที่สุดของการขับขี่สไตล์โกคาร์ทอันเป็นเอกลักษณ์ของ Min ซึ่ง Mini John Cooper Works GP นับเป็นรุ่นที่สะท้อนจิตวิญญาณที่แท้จริงของคอนเซ็ปต์นี้ได้อย่างชัดเจนที่สุดพร้อมเสริมความสปอร์ตด้วยรูปลักษณ์แข็งแกร่งทรงพลัง ที่นอกจากจะเพิ่มความสะดุดตาในด้านดีไซน์แล้วยังมีการพัฒนาประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ให้โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น เรามั่นใจว่า Mini John Cooper Works GP ใหม่นี้ จะเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มาสร้างตำนานในดวงใจของเหล่าสาวก Mini อย่างแน่นอน”
ปรากฏการณ์ความทรงพลังกับเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo พร้อมเสริมสมรรถนะรอบด้าน
Mini John Cooper Works GP ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ 4 สูบ มอบสมรรถนะเต็มพิกัดด้วยแรงบันดาลใจจากโลกมอเตอร์สปอร์ต เสริมประสิทธิภาพให้แก่เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรด้วยเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo เจเนอเรชั่นล่าสุด พร้อมยกระดับรายละเอียดเครื่องยนต์อีกมากมายที่เหนือกว่า Mini John Cooper Works รุ่นอื่น ๆ เทอร์โบชาร์จเจอร์ รวมทั้งเพลาข้อเหวี่ยง ลูกสูบ หัวฉีดน้ำมัน และอ่างน้ำมันเครื่อง ล้วนได้รับการพัฒนาใหม่เพื่อมอบการตอบสนองที่เฉียบคมทันใจทุกครั้งที่แตะคันเร่ง พร้อมเพิ่มการส่งพลังอย่างต่อเนื่องขณะโลดแล่นด้วยความเร็วสูง
Mini John Cooper Works GP ส่งพละกำลังสูงสุด 225 กิโลวัตต์ / 306 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,750-4,500 รอบต่อนาที สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 5.2 วินาที สู่ความเร็วสูงสุด 265 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตอกย้ำความเร็วเต็มพิกัดด้วยเสียงเครื่องยนต์สุดเร้าใจจากระบบไอเสียที่ออกแบบมาให้มีโทนเสียงเฉพาะตัว เพื่อแสดงถึงสมรรถนะอันโดดเด่นของ Mini John Cooper Works GP
สิ่งหนึ่งที่เครื่องยนต์สมรรถนะสูงขาดไม่ได้คือระบบการควบคุมอุณหภูมิที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งระบบระบายความร้อนของ Mini John Cooper Works GP ได้รับการออกแบบบนพื้นฐานของรถแข่งอย่างแท้จริง มาพร้อมหม้อน้ำ 2 ช่องสำหรับหล่อเย็นสำหรับเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง ถังพักน้ำหล่อเย็นขนาดใหญ่ขึ้น ระบบเก็บน้ำยาหล่อเย็นที่ออกแบบมาสำหรับรุ่นนี้โดยเฉพาะ และพัดลมไฟฟ้าเสริมประสิทธิภาพการทำงานยิ่งขึ้นเพื่อควบคุมอุณหภูมิเครื่องยนต์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมตลอดเวลา แม้ขณะบรรทุกน้ำหนักมากหรือขณะขับขี่แบบสปอร์ตสุดขั้ว
นอกจากนี้เกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะที่มีระบบระบายความร้อนแยกต่างหาก เสริมศักยภาพการทำงานระหว่างระบบการขับขี่และอัตราทดเกียร์ให้ดียิ่งขึ้น ระบบเกียร์แบบใหม่ยังช่วยเสริมความสปอร์ตให้กับการเปลี่ยนเกียร์ด้วยปุ่มเปลี่ยนเกียร์ไฟฟ้า หรือหากต้องการเปลี่ยนไปขับขี่ด้วยเกียร์ธรรมดาก็สามารถทำได้โดยใช้แป้นเปลี่ยนเกียร์บริเวณพวงมาลัย
ระบบช่วงล่างของ Mini John Cooper Works GP มาพร้อมอีกมิติของการขับขี่สไตล์โกคาร์ทด้วยการพัฒนาด้านหลักจลนศาสตร์ของล้อ และเพลา เสริมความคล่องตัวด้วยฐานล้อที่กว้างขึ้นและตัวรถที่ต่ำลง 10 มิลลิเมตรเมื่อเทียบกับ Mini John Cooper Works รุ่นอื่น ๆ พร้อมพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวถัง ระบบเบรกแบบสปอร์ตการันตีประสิทธิภาพการลดความเร็วได้อย่างสม่ำเสมอในทุกสภาพการใช้งาน มาพร้อมคาลิเปอร์เบรกแบบตายตัว 4 ลูกสูบบริเวณล้อหน้า และคาลิเปอร์เบรกลูกสูบเดี่ยวแบบลอยบริเวณล้อหลัง
ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) มาพร้อมโหมด GP ที่สามารถเริ่มใช้งานได้เพียงเปิดสวิตช์ โดยจะช่วยเพิ่มเสถียรภาพระหว่างระบบเบรกและระบบการควบคุมเครื่องยนต์ ทำงานควบคู่กับระบบล็อกเฟืองท้ายแบบ mechanical เพื่อรองรับการควบคุมที่ฉับไวยิ่งขึ้น ซึ่งสวิตช์ที่ใช้ควบคุมระบบเสถียรภาพการขับขี่ ยังสามารถใช้ปิดระบบ DSC ได้อีกด้วย
ดีไซน์โดดเด่น เสริมความโฉบเฉี่ยวด้วยชุดแอโรไดนามิกส์
Mini John Cooper Works GP มาในดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์สะกดสายตาด้วยลุกรถแข่งพันธุ์แท้ ที่ไม่เพียงโดดเด่นในด้านรูปโฉมเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสมรรถนะการขับขี่อย่างเสถียรภาพและความแม่นยำในการควบคุมรถยนต์ในสภาวะการขับขี่ที่ต้องการความคล่องตัวสูง ตัวถังได้รับการออกแบบมาเพื่อชูความสมมาตรระหว่างหลักอากาศพลศาสตร์ และการไหลเวียนของอากาศเพื่อระบายความร้อนในเครื่องยนต์และระบบเบรก โดดเด่นด้วยสปอยเลอร์บนหลังคาแบบปีกคู่ พ่วงกับดีไซน์กระโปรงหน้าแบบ Blackband และขอบสปอยเลอร์หน้า ที่ทำงานร่วมกันในการลดแรงยก ทำให้แรงยกบริเวณซุ้มล้อหน้าและซุ้มล้อหลังลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับ Mini John Cooper Works รุ่นอื่น ๆ
ลักษณะดีไซน์อันโดดเด่นของ Mini John Cooper Works GP ใหม่ที่มีความสำคัญในด้านอากาศพลศาสตร์ ยังรวมถึงซุ้มล้อที่กว้างออกเพื่อรองรับการเปลี่ยนยางสำหรับขับขี่บนสนามแข่งที่ใหญ่กว่าล้อปกติ และช่องดักลมด้านข้างตัวรถ โดยวัสดุที่ใช้บริเวณซุ้มล้อ ประกอบไปด้วยโครงสร้างเทอร์โมพลาสติกด้านใน ผสานคาร์บอนไฟเบอร์เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านนอก(CFRP) ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของ BMW Group ที่นำวัสดุสองประเภทดังกล่าวมาใช้ร่วมกันโดยผ่านกระบวนการผลิตแบบพิเศษ นอกจากนี้ยังได้มีการพิมพ์หมายเลขลำดับการผลิตที่เปรียบเสมือนหมายเลขประจำตัวนักแข่งรถในสนาม
Mini John Cooper Works GP มาพร้อมล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 18 นิ้ว (8.0 J × 18) ซึ่งมีน้ำหนักไม่ถึง 9 กิโลกรัม และมาพร้อมยางสมรรถนะสูงที่พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะสำหรับ Mini John Cooper Works GP
สะดุดตาด้วยเอกลักษณ์ความสปอร์ตไม่ซ้ำใคร
รูปโฉมที่ถ่ายทอดเอกลักษณ์ในตำนานได้ของ Mini John Cooper Works GP สื่อถึงสมรรถนะความทรงพลังผสานด้วยเส้นสายการดีไซน์ที่เฉียบคม มาในตัวถังสีเทา Racing Grey metallic ตัดกับหลังคาและฝาครอบกระจกสีเงิน Melting Silver metallic ชิ้นส่วนกันชนด้านหน้า รวมทั้งด้านหลังที่มาพร้อมไฟตัดหมอกในตัว ได้รับการออกแบบในรูปทรงแปลกใหม่ เสริมความสะดุดตาด้วยแผงกระจังหน้าลวดลายทรงหกเหลี่ยม โดดเด่นไม่ซ้ำใครด้วยช่องรับอากาศด้านล่างและด้านในสปอยเลอร์บนหลังคาในสีแดงเงา Chili Red
โลโก้ GP อันเป็นเอกลักษณ์ในสีแดง Rosso Red metallic matt ปรากฎอยู่บนตำแหน่งต่าง ๆ ทั่วทั้งรถ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณหน้ารถ ท้ายรถ ด้านนอกของสปอยเลอร์หลังคา ขอบประตู และสเกิร์ตด้านข้าง กรอบไฟหน้า กระจังหน้า ไฟท้าย ฝาถังน้ำมัน มือจับประตู ชุดแต่งบนกระโปรงหน้า โลโก้ Mini ทั้งหน้ารถ และท้ายรถ มาในสีดำสร้างคอนทราสต์ตัดกับส่วนอื่น ๆ ของตัวรถอย่างชัดเจน สอดรับกับโคมไฟหน้าสีดำและไฟท้ายดีไซน์ธงยูเนียนแจ็คสีดำเช่นกัน เน้นย้ำถึงความสปอร์ตสุดขั้วของ Mini John Cooper Works GP
ภายในห้องโดยสารมาพร้อมเบาะสองที่นั่ง ลดการติดตั้งวัสดุกันเสียงเพื่อลดน้ำหนักของตัวรถ มอบความรู้สึกสปอร์ตดุดันเช่นเดียวกับรถแข่ง มาพร้อมเบาะหนังแท้ Dinamica แบบสปอร์ตในสไตล์ John Cooper Works ขอบเบาะสีเงินตัดกับตะเข็บสีแดง ตกแต่งด้วยตรา GP ด้านล่างพนักพิงศีรษะและสายเข็มขัดสีแดง แผงคอนโซลบริเวณที่นั่งผู้โดยสารปรากฏเลขแสดงลำดับการผลิตของรถแต่ละคันจากการพิมพ์แบบสามมิติ เสริมความพิเศษสุดให้แก่ Mini John Cooper Works GP ใหม่ทุกคัน
พวงมาลัยของ Mini John Cooper Works GP ใหม่บ่งบอกถึงความเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะรุ่นด้วยลวดลายจากการพิมพ์แบบสามมิติ หุ้มด้วยวัสดุหนังแท้ Nappa ตัดกับตะเข็บสีแดง ตรงกลางมีชิ้นส่วนเหล็กบ่งบอกตำแหน่ง 12 นาฬิกา ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่ผลิตขึ้นด้วยกระบวนการขึ้นรูปทีละชิ้นส่วนแบบ Additive Manufacturing แป้นเปลี่ยนเกียร์ด้านหลังพวงมาลัยเป็นการนำเหล็กมาขึ้นรูปด้วยเทคโนโลยีพิมพ์แบบสามมิติเช่นกัน บนพื้นผิวของแป้นเปลี่ยนเกียร์แต่งแต้มด้วยโลโก้ GP และลวดลายรวงผึ้งอันเป็นเอกลักษณ์ ในบริเวณห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีดำเป็นหลัก เพิ่มสีสันด้วยโลโก้ GP สีแดงบนพื้นพรมและลายเส้นคู่บนหัวเกียร์ รวมทั้งโครงเหล็กอลูมิเนียมด้านหลังเบาะที่นั่งในสีแดง Chili Red ซึ่งได้รับการติดตั้งเพื่อป้องกันสัมภาระจากหลังรถไหลลื่นมาด้านหน้าในกรณีที่เบรกกระทันหัน
ระบบความบันเทิงมาพร้อมระบบ MINI Connected เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ผลการขับขี่เฉพาะรุ่นของ Mini John Cooper Works GP ปรากฎบนจอแสดงผลขนาด 6.5 นิ้ว พร้อมแผงหน้าปัดดิจิทัลความละเอียดสูงขนาด 5 นิ้ว แสดงความเร็วในการขับขี่ทั้งแบบตัวเลขและเข็มวัด รวมทั้งแสดงผลการขับขี่ในโหมด GP ทั้งแบบชั่วคราวและถาวร
Mini John Cooper Works GP มาถึงประเทศไทย 5 คันแรกจากทั้งหมด 30 คัน ที่ราคา 4,200,000 บาท ซึ่งรวมถึงแพ็คเกจพิเศษ MSI 10/100 ครอบคลุมระยะเวลาบำรุงรักษา 10 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และการรับประกัน 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง และสำหรับอีก 25 คัน จะพร้อมส่งมอบภายในปี 2563 โดยสามารถติดตามข้อมูลได้ทาง www.facebook.com/MINI.Thailand/
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: Mini Thailand
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.