“วอลโว่” เตรียมเผยโฉม V40 T4 Facelift ใหม่ ในเมืองไทย
วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) ขอแนะนำ V40 T4 Facelift ใหม่ เครื่องยนต์ Drive-E เบนซินเทอร์โบ รถพรีเมี่ยมแฮทช์แบ็ค 5 ประตูที่คงเอกลักษณ์การออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวียนที่โก้หรู ด้วยโฉมใหม่ที่มีไฟหน้าทรงค้อนของเทพเจ้าแห่งเจ้าธอร์ (Thor Hammer) ปราดเปรียว และเปี่ยมด้วยสมรรถะ ขับสนุก โลดเล่นดั่งใจ ปลอดภัยสูงสุด
นางสาวแอเน็ต แอนเดอร์สัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “วอลโว่ V40 เป็นรถยนต์แฮทช์แบ็คห้าประตูขนาดกลางระดับพรีเมียม ที่ได้เริ่มต้นการผลิตตั้นแต่ปี 2012 และได้กลายเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดของวอลโว่ในยุโรปและขายดีเป็นอันดับสองของแบรนด์ทั่วโลก สำหรับประเทศไทย V40 ถือเป็นรถอีกหนึ่งรุ่นที่เขามาทำตลาดในไทยและได้รับความนิยมอย่างมาก ทำให้เราได้กลุ่มเป้าหมายใหม่ที่เป็นคนรุ่นใหม่มากขึ้น และเร็วๆ นี้ จะมีการเปิดตัว วอลโว่ V40 T4 ใหม่ อย่างเป็นทางการกับการปรับโฉมใหม่ที่โฉบเฉี่ยวและทรงพลังมากขึ้นและคงความโก้หรูในเอกลักษณ์ของวอลโว่เช่นเคย ด้วยกระจังหน้าและโลโก้ พร้อมไฟหน้าที่มีรูปทรงจำลองมาจากค้อนเทพแห่งเจ้าธอร์ ซึ่งจะเป็นโฉมหน้าใหม่ของวอลโว่รุ่นใหม่ๆ ต่อจากนี้ไป เพื่อเปลี่ยนภาพลักษณ์แบรนด์ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่มากขึ้น V40 T4 มีสีให้เลือกมากถึง 5 สี ได้แก่ สีขาว (Ice White Solid) สีเงินเมทัลลิค (Bright Silver Metallic) สีน้ำเงินเมทัลลิค (Power Blue Metallic) สีเทาเมทัลลิค (Osmium Grey Metallic) สีดำ (Onyx Black Metallic)
และเพื่อสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุนผู้ผลิตรถยนต์ออกแบบและพัฒนารถที่ปล่อยไอเสียในปริมาณที่ต่ำลง วอลโว่จึงได้ออกแบบและพัฒนารถรุ่น V40 T4 ให้มีการปล่อยค่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เฉลี่ยอยู่ที่ 142 กรัมต่อกิโลเมตร ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ที่ 150 กรัมต่อกิโลเมตร ซึ่งนอกจากจะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมแล้ว รถรุ่นนี้ยังทำราคาได้น่าสนใจและคาดว่าจะดึงดูดกำลังซื้อเพิ่มขึ้นช่วงปลายปี
V40 T4 มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินความจุ 2,000 ซี.ซี. ขนาด 4 สูบ เครื่องยนต์ใหม่ Drive-E Powertrain นวัตกรรมเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังที่ตอบสนองรวดเร็ว ขับสนุก มอบความเร้าใจในการขับขี่และการใช้เชื้อเพลิงอย่างคุ้มค่าด้วยเครื่องยนต์ T4 เบนซิน ทวินเทอร์โบ 190 แรงม้า ที่ 4,700 รอบต่อนาที และแรงบิดที่ 300 นิวตันเมตรที่ช่วง 1,300 – 4,000 รอบต่อนาที ด้วยความเร็วสูงสุด 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม.ต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 6.9 วินาทีเท่านั้น อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยในเมืองและนอกเมือง 16.4 กม.ต่อลิตรเหมาะกับเป็นรถคู่ใจในทุกๆการเดินทาง
ออกแบบภายในห้องโดยสารได้สวยงาม ภายใต้แนวคิด “ออกแบบมาเพื่อคุณ” (Designed Around You) ด้วยโทนสีทันสมัย สะท้อนอิสระแห่งการเดินทาง เบาะนั่งใหม่สไตล์สปอร์ตบุหนังคุณภาพสูงสีดำชาโคล พวงมาลัยสีดำด้าน โลโก้วอลโว่ iron mark แบบใหม่บนพวงมาลัย แผงหน้าปัด-ตกแต่งด้วยขอบอลูมีเนียมสีดำคงความหรูหราและประณีตด้วยเอกลักษณ์การออกแบบจากสวีเดนเปี่ยมไปด้วยรสนิยมชั้นเลิศของผู้ขับขี่
นวัตกรรมที่ให้ความสะดวกเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัสหรือสั่งการด้วยเสียงอย่าง Volvo Sensus Connect ให้คุณค้นหาข้อมูลและควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆของรถ ได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านสัญญาณบลูทูธ เพื่อให้คุณสามารถสื่อสารผ่านโลกอินเตอร์เน็ตได้อย่างสะดวกและปลอดภัย รวมทั้งฟังเพลงจากเครื่องเล่นเพลงแบบพกพาโดยผ่านการเชื่อมต่อด้วยสัญญาณบลูทูธได้อย่างรื่นรมย์ พร้อมจอแสดงผลแบบ TFT ขนาด 8 นิ้วที่มีรายละเอียดสูงติดตั้งอยู่เหนือคอนโซลกลางเพื่อแสดงข้อมูลสำคัญต่างๆให้ผู้ขับขี่ทราบในแต่ละสถานการณ์ พร้อมสะท้อนอารมณ์ในการขับขี่ด้วยธีมสีและรูปแบบการแสดงผลที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับได้ถึง 3 รูปแบบ คือ Elegance Eco และ Performance
ระบบกรองอากาศอัจฉริยะ CleanZone air purification system ซึ่งเป็นระบบกรองอากาศในห้องโดยสารรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพมากสุด ที่มีประสิทธิภาพในการดักจับอนุภาคเล็ก ละอองเกสร และฝุ่นผง ที่ปะปนมากับอากาศได้ดีที่สุด เพื่อบรรยากาศห้องโดยสารที่สะอาด ปลอดโปร่ง
รวมถึงยังมีเทคโนโลยีทันสมัยมากมายทั้งในด้านความปลอดภัยและฟังก์ชั่นช่วยในการขับขี่เช่นเดียวกับที่มีในรถรุ่นใหญ่ ท อาทิ ระบบช่วยในการจอดรถอัตโนมัติ (Park assist pilot) ช่วยให้การจอดแบบขนานขอบทางง่ายดายขึ้นโดยที่ระบบอัจฉริยะจะควบคุมการบังคับเลี้ยวของรถเอง ผู้ขับขี่เพียงแค่ควบคุมความเร็วรถและปรับเปลี่ยนเกียร์เท่านั้น ระบบนี้ทำงานโดยเซ็นเซอร์อัลตร้าโซนิคที่ติดตั้งไว้ที่ด้านหน้า หลัง และข้างรถ
ยิ่งกว่านั้น ยังมี ระบบป้องกันการชนขณะขับขี่ความเร็วต่ำ City Safety ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เมื่อรถวิ่งในระดับความเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. ระบบจะใช้เลเซอร์ที่ฝังอยู่ส่วนบนของกระจกบังลมหน้า สแกนพื้นที่ด้านหน้ารถในระยะห่างออกไป 10 เมตร เพื่อตรวจจับยานพาหนะด้านหน้ารถว่าหยุดอยู่กับที่หรือกำลังเคลื่อนที่อย่างช้าๆ ถ้าระบบประเมินว่าการชนกำลังจะเกิดขึ้น เบรกจะถูกชาร์จเตรียมไว้เพื่อให้คุณเหยียบเบรกได้ทันท่วงที หรือหากคุณไม่เหยียบเบรก ระบบจะทำการเบรกโดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีเพื่อการเดินทางสู่เป้าหมายที่วอลโว่ตั้งไว้ว่าภายในปี ค.ศ. 2020 จะต้องไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บสาหัสในรถวอลโว่รุ่นใหม่อีกต่อไป
พบกับ V40 T4 Facelift ปี 2017 ยนตกรรมโฉมหน้าใหม่ ที่จะอวดโฉมให้ได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด พร้อมเปิดราคาเป็นครั้งแรก! ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 33 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2559 สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02-305-4499 หรือ WWW.VOLVOCARS.COM/TH
Comments are closed.