“วอลโว่” เสริมทัพ S90 ด้วยเครื่องยนต์ใหม่ ทวิน เอ็นจิน ปลั๊กอิน ไฮบริด ในราคาเริ่มต้น 3.39 ล้านบาท
วอลโว่ เดินหน้าลุยตลาดพรีเมี่ยมซีดาน ส่ง S90 T8 Twin Engine AWD ปลั๊กอิน ไฮบริด ลงเสริมทัพ ชูจุดขายอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 55.5 กิโลเมตรต่อลิตร และครบครันด้วยนวัตกรรมความปลอดภัย พร้อมฟรีบริการบำรุงรักษา (Volvo Maintenance) 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร, ฟรีบริการรับประกันคุณภาพ (Volvo Warranty) 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Volvo Assistance) ตลอด 24 ชั่วโมง 3 ปี มอบเป็นมาตรฐานสำหรับวอลโว่ทุกรุ่น
นายคริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า วอลโว่เป็นแบรนด์รถพรีเมี่ยมที่มีศักยภาพและโอกาสเติบโตสูงมากในเมืองไทยด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของสวีเดน รวมถึงนวัตกรรมความปลอดภัยอัจฉริยะระดับโลกที่มีอยู่ในรถวอลโว่รุ่นใหม่ๆ และที่สำคัญคือ วิสัยทัศน์ความมุ่งมั่นที่จะผลิตรถแห่งอนาคตเพื่อโลกอย่างแท้จริง โดยเราเป็นผู้นำแบรนด์รถหรูรายแรกที่ออกมาประกาศว่าตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป รถยนต์รุ่นใหม่ของวอลโว่ทุกคันจะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าในรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริด ซึ่งวอลโว่ในทุกประเทศทั่วโลกพร้อมแล้วที่จะเดินหน้าสู่วิสัยทัศน์เดียวกันนี้
“ปีที่ผ่านมานับเป็นปีที่วอลโว่ทั่วโลกประสบความสำเร็จกับประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวอลโว่ The All New Volvo XC90 ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นยอดขาย XC90 T8 Twin Engine AWD เครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริดมากกว่า 15% สะท้อนให้เห็นทิศทางตลาดโลกว่าผู้คนเริ่มหันมาให้ความนิยมกับรถพลังงานทางเลือกใหม่มากขึ้น มาจนถึงรถพรีเมี่ยมซีดานหรูรุ่น S90 นับเป็นรถเรือธงรุ่นที่สองต่อจาก XC90 ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงภายหลังจากเปิดตัวเมื่อช่วงปลายปี 2559 และล่าสุดเราพร้อมแนะนำ S90 T8 Twin Engine AWD Plug-in Hybrid ซึ่งเตรียมออกสู่ตลาดอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้” คริส เวลส์ กล่าว
นายคริส กล่าวอีกว่า “วอลโว่มีความตั้งใจที่จะให้การมาของ S90 ครั้งนี้เป็นที่สนใจของตลาดเมืองไทยอีกครั้งในฐานะผู้นำแบรนด์รถหรูที่ออกมาประกาศจุดยืนเรื่องการส่งเสริมรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในวาระระดับโลกพร้อมทั้งขานรับนโยบายของรัฐบาลไทยอย่างจริงจัง และในขณะเดียวกันรถยนต์ S90 ได้ตั้งราคาได้เป็นที่น่าสนใจอย่างมาก โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 3.09 ล้านบาท ซึ่งน่าจะตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าระดับพรีเมี่ยมที่ชื่นชอบในรูปโฉมรถที่มีเอกลักษณ์เฉพาะแบบสวีเดนได้เป็นอย่างดี”
นอกจากนี้ S90 ยังได้รับการปรับโฉมหน้าใหม่ให้แฝงด้วยความมั่นใจในแบบฉบับของวอลโว่ โดยมีการออกแบบที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์ อันได้แก่ รูปทรงไฟหน้าที่จำลองแบบ “ค้อนแห่งเทพเจ้าธอร์” (Thor Hammer) แบบแอลอีดีผนวกกับกระจังหน้าสวยหรูพร้อมตราโลโก้ Iron Mark รูปแบบใหม่ของวอลโว่ การออกแบบตกแต่งภายในของ S90 โก้หรูด้วยแผงหน้าปัดที่ที่แสดงผลกราฟฟิกขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว (ในรุ่น T8 Twin Engine) พิถีพิถันแม้กระทั่งปุ่มปรับทิศทางของช่องลมแอร์แนวตั้งที่ขัดเกลาเคลือบด้วยโลหะรูปทรงเพชร ระบบกรองอากาศ Clean Zone ที่ดักละอองฝุ่น เกสรดอกไม้ อันเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้ และสูดสัมผัสได้ถึงบรรยากาศในรถที่บริสุทธิ์สะอาดเหมือนที่สวีเดน แม้จะเป็นรถยนต์นั่งซีดาน 4 ประตูคันใหญ่ แต่ก็ไม่ลืมคุณสมบัติด้านอรรถประโยชน์ เช่น ช่องเก็บของรอบห้องโดยสาร ที่คอนโซลกลาง และที่วางแขนกลางเบาะหลัง พนักพิงเบาะหลังแยกพับราบได้ 60/40 เพิ่มเนื้อที่บรรทุกสัมภาระ ขณะเดียวกันก็สามารถนั่งโดยสารฝั่งใดฝั่งหนึ่งของเบาะหลัง
สำหรับวอลโว่ S90 Twin Engine AWD ปลั๊กอิน ไฮบริด ใหม่ เป็นเครื่องยนต์ที่ผสานการทำงานของเทอร์โบชาร์จ (Turbocharger) และซูเปอร์ชาร์จ (Supercharger) เข้าด้วยกันอย่างไม่มีที่ติ ให้กำลังสูงสุด 320 แรงม้า ที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบ 2,220-5,400 ต่อนาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 87 แรงม้า แรงบิดสูงสุดจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ 240 นิวตันเมตร และเมื่อรวมกับกำลังเครื่องยนต์เบนซินกับมอเตอร์ไฟฟ้า จึงได้เครื่องยนต์ที่มีพละกำลังแรงถึง 407 แรงม้า เรียกพลังจากแรงบิดสูงถึง 640 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ได้ในเวลาเพียง 4.8 วินาที เท่านั้น อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 55.5 กิโลเมตรต่อลิตร และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เพียง 41 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น และสามารถวิ่งด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียว (Pure mode) ได้ไกลถึง 52 กิโลเมตร ซึ่งวอลโว่ S90 T8 Twin-Engine AWD ปลั๊กอิน ไฮบริด สามารถเสียบปลั๊กชาร์จแบตเตอรี่สูงสุดที่ 16A สามารถชาร์จไฟเต็มโดยใช้เวลาเพียง 2.5 ชั่วโมงเท่านั้น
นอกจากนี้ วอลโว่ยังมีระบบความปลอดภัยหรือที่เรียกว่า Intellisafe ควบรวมระบบความปลอดภัยทั้งเชิงป้องกันและปกป้อง ไม่ว่าจะเป็นระบบ Pilot Assist เจนเนอร์เรชั่นที่ 2 เป็นระบบช่วยในการขับขี่กึ่งอัตโนมัติ ทำงานที่อัตราความเร็วสูงสุดที่ 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และไม่ต้องอาศัยรถคันหน้าอีกต่อไปนอกจากนี้ S90 ยังติดตั้งระบบความปลอดภัยอันเป็นนวัตกรรมของโลก คือ ระบบป้องกันรถยนต์วิ่งออกนอกช่องทาง (Run-Off Road Mitigation) ทำงานในย่านความเร็ว 65-140 กม./ชม. รวมทั้งระบบ City Safety ที่มาพร้อมกับเซนเซอร์ตรวจจับสัตว์ขนาดใหญ่ (Large Animal Detection) ซึ่งเป็นครั้งแรกของโลกที่นำระบบเหล่านี้ติดตั้งในรถยนต์นั่งซีดาน เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยตลอดการเดินทางทั้งกลางวันและกลางคืน นับเป็นก้าวสำคัญไปสู่วิสัยทัศน์ของวอลโว่ที่ว่า “ในปีค.ศ.2020 จะต้องไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บสาหัสในรถวอลโว่รุ่นใหม่”
รถยนต์ตระกูล S90 ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์ 2 รุ่น แบ่งออกเป็น 3 รุ่นให้เลือก ได้แก่
รุ่นวอลโว่ S90 T8 Twin Engine AWD (Plug-in hybrid) – Inscription ราคา 3.79 ล้านบาท
รุ่นวอลโว่ S90 T8 Twin Engine AWD (Plug-in hybrid) – Momentum ราคา 3.39 ล้านบาท
รุ่นวอลโว่ S90 D4 – Momentum ราคา 3.09 ล้านบาท
สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์วอลโว่ใหม่ทุกคันจะได้รับ Volvo Maintenance บริการบำรุงรักษาฟรี 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และ Volvo Warranty บริการรับประกันคุณภาพ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และ Volvo Assistance บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมง 3 ปี มอบเป็นมาตรฐานสำหรับวอลโว่ทุกรุ่นด้วย
Comments are closed.