ยางรถยนต์ต้นแบบที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI
กู๊ดเยียร์ อีเกิ้ล 360 เออร์เบิน ยางแห่งอนาคตที่สามารถรับรู้ ตัดสินใจ เปลี่ยนรูปและสื่อสารได้
กู๊ดเยียร์ เผยวิสัยทัศน์ระยะยาวแห่งอนาคต ด้วยการพัฒนายางรถยนต์ที่เชื่อมต่ออัจฉริยะและเทคโนโลยีแห่งการขับเคลื่อนโดยไร้คนขับโดยการขับเคลื่อนจากศูนย์ควบคุมในเมืองต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อกันระหว่างยางรถยนต์ ยานยนต์ และสภาพแวดล้อม ล่าสุด กู๊ดเยียร์เผยโฉมอีเกิ้ล 360 เออร์เบิน (Eagle 360 Urban) ยางรถยนต์ต้นแบบรูปทรงกลมแบบ 3 มิติ ที่ถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีเอไอ หรือ Artificial Intelligence (AI) ทำให้ยางรุ่นนี้สามารถรับรู้ ตัดสินใจ เปลี่ยนรูปและสื่อสารได้
มร. ฌอง-คล็อด คิห์น ประธานกรรมการ กู๊ดเยียร์ ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา กล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ จะเป็นการเปลี่ยนแปลงระบบอัตโนมัติ เทคโนโลยีการขับเคลื่อน และเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ ซึ่งจะทำให้เทคโนโลยีสำหรับยางรถยนต์มีบทบาทสำคัญมากขึ้น ทั้งนี้
การเดินทางไปตามสภาพแวดล้อมต่าง ๆ อย่างปลอดภัยนั้น ยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเองแห่งอนาคตต้องเรียนรู้ที่จะรับมือต่อสภาวการณ์ที่ไม่คุ้นเคยที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างขับขี่ในแต่ละวัน โดยยานยนต์เหล่านั้นต้องสามารถเข้าถึงข้อมูล และมีสมรรถนะในการเรียนรู้ด้วยตนเอง และสามารถดัดแปลงนำไปใช้รับมือในสภาวการณ์ต่าง ๆ ได้”
กู๊ดเยียร์ยังคงคิดค้นนวัตกรรมเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับยางแห่งอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีเอไอ โดยผลิตออกมาเป็นยางรุ่นอีเกิ้ล 360 เออร์เบิน และได้ติดตั้ง ‘สมอง’ ให้กับยางรุ่นนี้
โดยผสมผสานพื้นผิวของยางแบบไบโอนิค และดอกยางแบบ morphing ที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปร่างไปตามสภาพที่เหมาะสม มีสมรรถนะในการแปรความรู้ที่ได้รับ ไปสู่การปรับเปลี่ยนรูปทรงของตัวยาง
ทำให้ยางรถยนต์กลายเป็นส่วนหนึ่งของ ‘ระบบประสาท’ ของรถยนต์ และเป็นส่วนหนึ่งของโลกแห่งการเชื่อมต่อในยุค Internet of Things อีกด้วย ด้วยเหตุนี้ยางรถยนต์จึงมีประสิทธิภาพในการพัฒนาทันตามสภาพการณ์และความต้องการที่เปลี่ยนไปของการบริการด้านเทคโนโลยีแห่งการขับเคลื่อนหรือ Mobility as a Service (MaaS) สำหรับยานยนต์และผู้ขับขี่
กู๊ดเยียร์อีเกิ้ล 360 เออร์เบิน โดดเด่นด้วยพื้นผิวของยางแบบไบโอนิคที่มีระบบตรวจวัดหรือเซ็นเซอร์ที่ช่วยให้ยางรถยนต์ต้นแบบชนิดนี้สามารถตรวจสอบสภาพของตัวเองและรวบรวมข้อมูลรอบตัว รวมถึงพื้นผิวถนนได้โดยอัตโนมัติ ด้วยประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อข้อมูลกับยานยนต์คันอื่น รวมทั้งโครงสร้างขั้นพื้นฐาน การจราจร และระบบการจัดการเทคโนโลยีแห่งการขับเคลื่อน จึงทำให้ยางอีเกิ้ล 360 เออร์เบิน สามารถตรวจจับข้อมูลที่อยู่โดยรอบได้แบบเรียลไทม์
นอกจากนี้ ยางอีเกิ้ล 360 เออร์เบินยังสามารถเชื่อมโยงแหล่งข้อมูลต่างๆ และประมวลผลได้ทันที โดยใช้เครือข่ายที่ทำหน้าที่เหมือนระบบประสาทที่ได้รับการฝึกฝนด้วยระบบอัลกอริธึม เพื่อประมวลผลเรียนรู้และจดจำที่ลึกซึ้งได้ ทำให้ยางรถยนต์ต้นแบบรุ่นอีเกิ้ล 360 เออร์เบินสามารถตัดสินใจดำเนินการได้อย่างแม่นยำเหมาะสมตามสถานการณ์ ส่วนการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีเอไอ ทำให้สามารถเรียนรู้จากการกระทำต่างๆ ก่อนหน้านี้ เพื่อนำไปปฏิบัติและตอบสนองได้ดียิ่งขึ้นในคราวต่อไป
ทั้งนี้ ตัวยางทำจากวัสดุโพลิเมอร์ที่มีความยืดหยุ่นเป็นพิเศษ ทำให้พื้นผิวไบโอนิคของยางรุ่นนี้มีความยืดหยุ่นเทียบเท่ากับผิวหนังของมนุษย์ ที่สามารถยืดและหดตัวได้ โดยชั้นนอกของยางห่อหุ้มด้วยวัสดุคล้ายโฟมที่มีความแข็งแรงเพียงพอ แต่มีความยืดหยุ่นรับน้ำหนักของรถยนต์ได้อย่างสบาย เนื่องจากส่วนประกอบที่ควบคุมการขับเคลื่อนมีความยืดหยุ่นภายใต้พื้นผิวของยาง และเป็นส่วนที่ทำให้ยางเปลี่ยนแปลงรูปตามข้อมูลที่ได้รับด้วยระบบไฟฟ้า ซึ่งทำงานคล้ายกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของมนุษย์
ทำให้สามารถปรับรูปร่างส่วนต่าง ๆ ได้ ส่วนการออกแบบดอกยาง อาทิ ปรับสภาพให้ยางมี ‘รอยแอ่ง’ สำหรับการวิ่งบนพื้นถนนเปียก หรือปรับให้พื้นผิวของยางมีความเรียบยิ่งขึ้นเมื่อวิ่งบนพื้นถนนแห้ง ส่งผลให้ดอกยางมีส่วนสัมผัสของพื้นยางที่มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น
ยางกู๊ดเยียร์ อีเกิ้ล 360 เออร์เบิน ใช้ดอกยางแบบ morphing ทำให้สามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างให้เหมาะกับสภาพถนนและอากาศที่แปรเปลี่ยนไป และยังสามารถแสดงปฏิกิริยาตอบสนอง โดยแสดงข้อมูลถึงสิ่งที่ยางสัมผัส โดยแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับการตอบสนองและขีดความสามารถของยาง ไปยังรถยนต์คันอื่น ๆ ผ่านระบบเครือข่าย Internet of Things
เมื่อพื้นผิวยางไบโอนิคเกิดการชำรุด ตัวเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งอยู่ในยางจะทำการระบุถึงตำแหน่งที่รั่ว จากนั้นตัวยางจะทำการหมุนเพื่อสร้างส่วนสัมผัสพื้นของยางในตำแหน่งใหม่ เพื่อช่วยลดแรงกดบนตำแหน่งที่รั่วของยาง และเพื่อให้เวลาสำหรับกระบวนการซ่อมแซมด้วยตัวเองได้ทำงานจนเสร็จ ซึ่งระบบซ่อมแซมตัวเองนี้ ทำงานได้เพราะวัสดุได้รับการออกแบบให้สามารถไหลผ่านไปตามรอยรั่วได้ โดยจะทำปฏิกิริยาโต้ตอบกันทั้งทางกายภาพและทางเคมี เพื่อสร้างรอยเชื่อมทางโมเลกุลขนาดเล็ก เพื่ออุดรอยรั่วนั้น
ยางยุคใหม่นี้ จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับคู่ค้าในกลุ่มยางรถยนต์ติดรถ รวมถึงผู้ให้บริการทางด้านเทคโนโลยีแห่งการขับเคลื่อน โดยสามารถเพิ่มอายุการใช้งานของยางได้และจัดการด้านการบำรุงรักษาแบบทันท่วงที ในส่วนของผู้ที่ใช้ยางเป็นประจำ ยางรุ่นใหม่นี้ยังสามารถมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้ขับขี่ด้วยการเสริมคุณลักษณะใหม่เพื่อสมรรถนะด้านความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการเรียนรู้และจดจำสำหรับการขับขี่อัตโนมัติ
ในปี 2560 นี้ กู๊ดเยียร์ได้เชิญนักศึกษาจากโรงเรียนสอนการออกแบบจากประเทศฝรั่งเศส ISD RUBIKA มาร่วมออกแบบและพัฒนายานยนต์ต้นแบบที่คิดค้นขึ้นโดยเฉพาะ เพื่อใช้กับยางรถยนต์ต้นแบบรุ่นอีเกิ้ล 360 เออร์เบิน ด้วยการร่วมงานกันอย่างใกล้ชิดกับทีมนักออกแบบของกู๊ดเยียร์นี้เอง
กลุ่มนักศึกษาเหล่านี้จึงสามารถรังสรรค์ Vision UMOD หรือยานยนต์แห่งอนาคต ที่ได้รับการดัดแปลงให้เหมาะกับความต้องการของเทคโนโลยีเพื่อการขับเคลื่อนในอนาคต
คุณสมบัติและประโยชน์ที่สำคัญต่าง ๆ
• เทคโนโลยีเอไอ (Artificial Intelligence: AI) ทำหน้าที่เหมือน ‘สมอง’ ของยางรถยนต์ เพื่อช่วยให้ยางสามารถ:
– รู้สึกเมื่อสัมผัสสภาพถนนและสภาพแวดล้อมโดยรอบ และสามารถตรวจสอบสถานะตัวเองได้แบบเรียลไทม์อีกด้วย
– การประมวลผลข้อมูลที่วัดได้ ด้วยการใช้เครือข่ายที่ทำหน้าที่เหมือนระบบประสาท ที่ได้รับการฝึกฝนให้มีระบบอัลกอริธึมเพื่อประมวลผลและเรียนรู้อย่างลึกซึ้ง เพื่อช่วยในการตัดสินใจและเรียนรู้ไว้ใช้ในโอกาสต่อไป
– เปลี่ยนแปลงรูปทรง ด้วยดอกยางแบบ morphing ที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปร่างไปตามสภาพที่เหมาะสม ร่วมกับระบบอินเตอร์เฟซระหว่างยางกับตัวรถยนต์
– สื่อสารไปยังยานยนต์คันอื่น รวมถึงส่วนอื่นๆ ผ่านระบบเครือข่าย Internet of Things
เพื่อถ่ายทอดข้อมูลที่จับได้ และนำไปศึกษาเพื่อการทำงานในโอกาสต่อไป
• ดอกยางที่มีสมรรถนะในการตรวจจับในระดับสูงที่อยู่บนพื้นผิวของยางไบโอนิค ร่วมกับเครือข่ายตัวเซ็นเซอร์ จะทำการตรวจจับข้อมูลเกี่ยวกับสภาพถนนและอากาศ และส่งต่อไปยัง:
– ยางเพื่อปรับเปลี่ยนรูปทรงของดอกยางตามความเหมาะสม
– ‘ระบบประสาท’ ของรถยนต์ เพื่อพัฒนาสมรรถนะด้านการเบรก การทรงตัวยึดเกาะถนน และการใช้พลังงาน
– ส่วนต่างๆ ทั้งหมด ผ่านระบบเครือข่าย Internet of Things เพื่อแจ้งเตือนไปยังยางรถยนต์และยานยนต์คันอื่น ที่คาดว่ากำลังจะวิ่งมาบนเส้นทางเดียวกัน
• ดอกยางแบบ morphing สามารถปรับเปลี่ยนรูปร่างไปตามสภาพที่เหมาะสมแบบอัจฉริยะ ซึ่งจะช่วยเตรียมสภาพของรถให้พร้อมสำหรับสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง โดยเตรียมความปลอดภัยอย่างทันท่วงทีได้ในทุกสภาวการณ์ โดยรูปแบบของดอกยางที่มีความเหมาะสมที่สุดจะปรากฏเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเองโดยอัตโนมัติ ร่วมกับการทำงานของผิวยางแบบไบโอนิค ที่ตอบสนองโดยขึ้นอยู่กับสภาพของอากาศและถนน
• ผิวยางไบโอนิค ทำให้ยางสามารถซ่อมแซมตัวเองได้ เมื่อผนวกกับการทำงานของหน่วยระบบ เอไอแล้ว จะช่วยให้ยางสามารถคำนวณสถานการณ์ปัจจุบัน และคาดการณ์ถึงการสึกหรอของยางรถยนต์ในอนาคต เพื่อทำการควบคุมยางแบบอัตโนมัติ เช่น การบำรุงรักษาแบบคาดการณ์ล่วงหน้าและแบบทันท่วงที ซึ่งจะช่วยเพิ่มอายุในการใช้งานของยาง และเสริมความปลอดภัยได้ และยังสามารถมอบประสบการณ์ผู้ใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนที่ได้รับการปรับปรุงตลอดเวลา ให้กับผู้ให้บริการทางด้านเทคโนโลยีแห่งการขับเคลื่อนได้อีกด้วย
• ด้วยรูปทรงโค้งกลมที่สามารถขับเคลื่อนในทุกทิศทาง จะช่วยเสริมประสิทธิภาพด้านความสะดวกสบายในขณะขับขี่ รวมถึงความปลอดภัยและสมรรถนะในการบังคับและควบคุมรถ
ให้เหมาะสมกับความต้องการของเทคโนโลยีการขับเคลื่อนอัตโนมัติ และการบริการทางด้านเทคโนโลยีแห่งการขับเคลื่อน ทั้งนี้ รูปทรงของยางยังสามารถปรับให้เหมาะกับพื้นที่ ที่มีความจำกัดในเมืองแห่งอนาคต (ที่จอดรถที่มีขนาดเล็กลง การขับเคลื่อน การขับขี่อัตโนมัติ และง่ายต่อการเปลี่ยน)
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.