มาเซราติ เอ็มเอสจี เรสซิ่ง พร้อมชิงชัยใน ฟอร์มูลา อี ซีซัน 10

หลังการประกาศทิศทางสู่ยุคอนาคตของค่ายตรีศูลเมื่อไม่นานมานี้ มาเซราติ เอ็มเอสจี เรสซิ่ง (Maserati MSG Racing) ก็พร้อมลงชิงชัยในการแข่งรถยนต์ไฟฟ้าระดับโลก FIA Formula E World Championship ด้วยการเผยโฉม ‘มาเซราติ ทิโป โฟลกอเร’ (Maserati Tipo Folgore) รถแข่งรุ่นใหม่ ที่จะใช้ในฤดูกาลที่ 10
มาเซราติ ทิโป โฟลกอเร เผยโฉมช่วงการทดสอบก่อนเริ่มฤดูกาลใหม่ ณ เซอร์กิต ริคาร์โด ทอร์โม (Circuit Ricardo Tormo) เมืองบาเลนเซีย ประเทศสเปน พัฒนาบนพื้นฐานของเทคโนโลยี ที่พิสูจน์ความสำเร็จมาแล้วในฤดูกาลที่ 9 พร้อมเพิ่มดีไซน์สะดุดตา เพื่อแสดงถึงประวัติศาตร์อันยิ่งใหญ่ในวงการมอเตอร์สปอร์ต และนวัตกรรมการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าของ มาเซราติ

MSG Season 10 (2)

มาเซราติ ทิโป โฟลกอเร คือ หนึ่งในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าของ มาเซราติ นับเป็นตัวเชื่อมความสำเร็จแห่งอดีตและอนาคตอย่างสมบูรณ์แบบ โดยมีเป้าหมายเพื่อแสดงจุดยืนของแบรนด์ ในวงการมอเตอร์สปอร์ตยุคใหม่ สะท้อนแผนกลยุทธ์และความมุ่งมั่น ในการรังสรรค์นวัตกรรมของ มาเซราติ อย่างชัดเจน
มาเซราติ ทิโป โฟลกอเร ตกแต่งด้วยสีพิเศษ คือ ทองแดง Rame Folgore (Copper Glance) บริเวณท้ายรถ สื่อถึงบุคลิกของรถยนต์ไฟฟ้าเจเนอเรชั่นใหม่ ที่จะครอบคลุมรถยนต์ มาเซราติ ทุกรุ่นที่จำหน่าย ภายในปี 2573

MSG Season 10 (3)

ฟอร์มูลา อี ฤดูกาลที่ 9 นับเป็นการหวนคืนสู่การแข่งรถยนต์หนึ่งที่นั่งระดับโลกของ มาเซราติ โดยค่ายตรีศูลได้กลับมาลงสนามแข่งเป็นครั้งแรก หลังเคยเข้าร่วมในรายการฟอร์มูลาวัน เมื่อ 66 ปีก่อน
ในการหวนคืนสนามครั้งนี้ มาเซราติสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในด้านสมรรถนะ ด้วยการคว้าตำแหน่งออกสตาร์ทหัวแถว (pole position) 2 ครั้ง ขึ้นโพเดียม 4 ครั้ง และคว้าแชมป์ประจำสนามที่จาการ์ตา ซึ่งนับเป็นการคว้าชัยในการแข่งรถยนต์หนึ่งที่นั่งเป็นครั้งแรก หลังเคยคว้าแชมป์ที่ เยอรมัน กรังด์ปรีซ์ ช่วงปี 2500
มาเซราติ ทิโป โฟลกอเร ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของ มาเซราติ ด้วยตัวถังสีน้ำเงิน แสดงถึงความมุ่งมั่นในการแข่งรถ พร้อมตกแต่งด้วยสีทองแดงทันสมัย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของสายพันธุ์ โฟลกอเร และเป็นโทนสีแห่งอนาคต

MSG Season 10 (4)

นอกจากขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง ‘Gen3’ ของรายการ ฟอร์มูลา อี ที่เปี่ยมล้นทั้งความแรงและความประหยัด เสมือนเป็นบรรทัดฐานใหม่ของยนตรกรรมพลังไฟฟ้า พละกำลังมากถึง 350 กิโลวัตต์ ความเร็วสูงสุดกว่า 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมประสิทธิภาพในการสร้างกำลังไฟฟ้าขณะเบรกได้ถึง 600 กิโลวัตต์ ส่งผลให้ 40% ของพลังงานที่ใช้ในการแข่ง เกิดจากการชาร์จไฟในจังหวะเบรก
การพัฒนาเทคโนโลยีจากสนามแข่งสู่ท้องถนน ทำให้การแข่ง ฟอร์มูลา อี และทีม มาเซราติ เอ็มเอสจี เรสซิ่ง มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าของ มาเซราติ ในอนาคต
หลังช่วงเวลาของการทดสอบสิ้นสุดลง ฟอร์มูลา อี ซีซัน 10 จะเป็นฤดูกาลแข่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด กับการตระเวนแข่งถึง 17 สนาม โดยมี โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นสนามใหม่ล่าสุด โดยเรซแรกจะเริ่มที่ เม็กซิโก ซิตี้ ในวันที่ 13 มกราคม 2567

Comments are closed.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    Cookies Details

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

Save